มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Motor)
มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง มีส่วนประกอบและลักษณะการทำงานเหมือนมอเตอร์มาตรฐาน แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่า เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุในการผลิตที่ดีขึ้น ทำให้มีค่าประสิทธิภาพของมอเตอร์สูงขึ้น ซึ่งสามารถลดการสูญเสียพลังงานได้ประมาณร้อยละ 25-30
ประสิทธิภาพของมอเตอร์จะขึ้นอยู่กับกำลังการสูญเสียในมอเตอร์ ถ้ามีกำลังการสูญเสียน้อยจะส่งผลให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยทางบริษัทผู้ผลิตจะทำการปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยการปรับปรุงส่วนประกอบต่างๆ พอสรุปได้ดังนี้
- ปรับปรุงคุณภาพของแกนเหล็ก
- ใช้แผ่นเหล็กซิลิคอนคุณภาพสูง (high grade silicon steel) - ใช้แผ่นเหล็กที่บางกว่า
- การลดความหนาของแผ่นเหล็กที่ใช้ทำแกนเหล็ก จะช่วยลดการสูญเสียจากกระแสไหลวน (eddy current losses) - ลดช่องอากาศระหว่างสเตเตอร์และโรเตอร์
- ทำให้ลดปริมาณสนามแม่เหล็กรั่ว ทำให้มอเตอร์กินพลังงานไฟฟ้าลดลง โดยยังคงแรงบิดเท่าเดิม - เพิ่มปริมาณของตัวนำ
- เพื่อลดความต้านทานในขดลวด - ออกแบบร่องสล็อตใหม่และทำให้แกนเหล็กที่สเตเตอร์ยาวขึ้น
- เพื่อรองรับและลดความหนาแน่นของสนามแม่เหล็ก เป็นผลของ power factor ที่ดีขึ้นด้วย - ออกแบบพัดลมระบายความร้อนใหม่
- ช่วยลดแรงเสียดทานและเพิ่มการระบายความร้อนได้ดีขึ้น - ใช้ตลับลูกปืนที่ดีขึ้น
- เพื่อให้แรงเสียดทานน้อยลง ลดการสูญเสียจากแรงเสียดทาน
จากการปรับปรุงข้างต้น จะทำให้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงมีประสิทธิภาพดีกว่ามอเตอร์ธรรมดา นอกจากการประหยัดพลังงานแล้ว มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงยังมีข้อดีอื่นๆอีกคือ เกิดความร้อนจากการทำงานน้อยกว่า อายุการใช้งานของฉนวนและลูกปืนยาวนานขึ้น การสั่นสะเทือนน้อยกว่า มีเสียงรบกวนน้อย และมีค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า (Power Factor) ที่ดีขึ้น ทำให้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงมีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามอเตอร์ธรรมดาอีกด้วย